สำหรับตอนนี้ก็ยังคงอยู่กันที่ย่านจิมซาจุ่ยของฮ่องกงเหมือนเดิม หลังจากที่ได้กินขนมหวานไปแล้วถึง 3 อย่างที่ร้าน The Sweet Dynasty เราก็มาต่อกันที่ร้าน Azabusabo Tokyo ซึ่งเป็นร้านอาหารญี่ปุ่นที่มีอยู่หลายสาขาในฮ่องกง อันที่จริงเห็นมีคำว่า Tokyo ต่อท้ายชื่อร้าน แต่จริงๆ แล้วมันเป็นร้านที่กำเนิดในฮ่องกงนี่แหละ โดยสาขาที่มาลองวันนี้ตั้งอยู่ที่ชั้น 2 ของ HK Pacific Centre Shop ขนาดร้านไม่ใหญ่มาก ตอนเดินเข้าร้านบรรยากาศออกจะเงียบๆ หน่อย มีอยู่แค่ 2 โต๊ะ แต่พอเห็นว่า มีโต๊ะนึงเป็นโต๊ะของคนญี่ปุ่นกว่าสิบคนก็เริ่มแอบใจชื้นว่า อาหารน่าจะอร่อย
ปัญหามันมีอยู่ว่า ตอนนี้ยังอิ่มอยู่เลย เพราะตอนเดินออกจากร้าน The Sweet Dynasty กับเวลาเดินเข้าร้าน Azabusabo มันห่างกันไม่ถึง 2 ชั่วโมง เลยสั่งมาแค่ 3 อย่าง เป็นจานเล็กๆ ทั้งนั้นเลย
จานแรก คือ Sesame Tuna ราคา 35.80 ดอลลาร์ฮ่องกง (ประมาณ 140 บาท) เป็นปลาทูน่าที่ทำเนื้อแบบให้ข้างนอกสุกนิด ข้างในดิบหน่อย ส่วนผิวด้านนอกมีงาขาวเคลือบ คุณภาพของอาหารจานนี้จะวัดกันที่ความสดของปลา และการรักษาความสุก-ดิบให้ตัดกันอย่างสมดุล ซึ่งก็ถือว่า อาหารจานนี้ผ่านเกณฑ์ทั้งสองข้อได้อย่างดี เนื้อปลาสดมากสมราคา ส่วนการทำก็ลงตัว คือ เนื้อด้านในยังรักษาความดิบไว้ได้แบบพอดี ความแห้งจากความสุกด้านนอกจึงถูกถ่วงดุลโดยความชุ่มชื้นจากความดิบด้านในอย่างลงตัว
จานที่สองก็กลับสู่ของหวานอีกครั้ง คือ Japanese Rice Cake with Red Bean Paste ราคา 43.80 ดอลลาร์ฮ่องกง (ประมาณ 170 บาท) จะประกอบด้วยแป้งโมจิสีขาวเหนียว กับถั่วแดง โรยหน้าด้วยผงน้ำตาลแดง โดยจะเสิร์ฟมาแบบอุ่นๆ รสชาติอร่อยดี ไม่หวานไป คือ ตัวแป้งจะจืด แทยไม่มีรสเลย เน้นแต่ความเหนียวให้เคี้ยวเล่น เวลากินกับถั่วแดงที่หวานค่อนข้างมากจึงออกมาตรงกลาง ไม่หวานไป ไม่จืดไป อย่างไรก็ดี มีให้ตินิดหน่อย คือ ปริมาณถั่วแดง กับปริมาณแป้งยังไม่ค่อยสมดุลกัน เค้าจะให้ถั่วแดงมาน้อยกว่าแป้ง เวลากินเลยมักจะมีแป้งเหลือ
จานสุดท้ายก็ยังคงอยู่ที่ของหวาน เป็น Warabi Mochi a la mode ราคา 35.80 ดอลลาร์ฮ่องกง (ประมาณ 140 บาท) จานนี้จะเสิร์ฟเย็น และประกอบไปด้วยของ 4 อย่าง คือ ไอศครีมชาเขียว แป้งโมจิซึ่งเหมือนกับในจานก่อนหน้า ผลไม้สองชิ้น และโมจิขนิด Warabi ซึ่งจะออกเป็นเยลลี่นุ่มๆ เด้งๆ มากกว่าแป้งเหนียวๆ ตอนแรกลองกินทีละอย่าง ที่เด่นคือ ตัว Warabi Mochi ที่มันมีความเข้มข้นครีมมี่ดีมาก ส่วนที่เหลือก็ยังอร่อยอยู่ แต่ก็ไม่ได้มีอะไรพิเศษ ส่วนเวลากินรวมกันจะอร่อยไปอีกแบบ
สรุปว่า ร้านนี้ใช้ได้ กินได้แบบไม่มีอะไรให้ติมากมาย ราคาก็โอเคตามมาตรฐานฮ่องกง ส่วนบริการก็ดีมาก (อันที่จริงอาจจะน่าประทับใจกว่าตัวอาหารเสียอีก) พนักงานจะเป็นกันเองสูง ยิ้มแย้มตลอด ผิดจากหลายร้านในฮ่องกงที่บริการแบบส้นตีนมาก.
^ โลโก้ร้าน Azabusabo Tokyo |
^ Sesame Tuna สังเกตสีจะเห็นการตัดกันของความสุก-ดิบ |
^ Japanese Rice Cake with Red Bean Paste |
^ Warabi Mochi a la mode ดูสวยงามดี แต่รสชาติอร่อยแบบไม่มีอะไรโดดเด่น |